FEEDBACK FOR GROWTH - ศิลปะการฟีดแบ็ก เพื่อสร้างการเติบโต
โปรแกรมที่มุ่งเน้นการบ่มเพาะความเข้าใจเชิงลึกในแก่นที่สำคัญของการให้และรับ Feedback อย่างลุ่มลึกเพื่อสร้างพลังบวกสู่การเปลี่ยนแปลง ด้วยเครื่องมือและหลักปฏิบัติที่ผสมผสานองค์ความรู้สำคัญ อาทิ Radical Candor , Positive Psychology Coaching , Non Violent Communication เข้าด้วยกัน ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถกลับไปให้ Feedback ในการนำทีม และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเกิดผล สร้างพลังบวก สร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจกับผู้รับ Feedback ได้ดีขึ้น
ส่วนที่ 1 – สิ่งที่เราจะฝึกฝนกันในประสบการณ์ 3 วัน เราทำอะไรบ้าง
โปรแกรมนี้จะฝึกฝนทั้งหมด 3 วัน แบบเจอตัว และติดตามผลทาง Zoom อีก 1 ครั้ง
โดยการฝึกฝนทั้ง 3 วัน แบ่งเป็น
วันที่ 1 : Experiential Learning สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ของหลักสูตร Original
เป็นการสัมผัสประสบการณ์จริงของคลาส Feedback for Growth ในฉบับ 1 วัน โดยจะเรียนไป ถอดบทเรียน ไปในแต่ละช่วง เพื่อให้สัมผัสประสบการณ์ทั้งในมุมของการเป็นผู้เข้าร่วม และได้เข้าใจรายละเอียดในมุมของการทำหน้าที่ Facilitator
เบรค 1 : Feedback for Growth and Incubating Feedback Mindset
เบรกแรกจะปูความเข้าใจ ความสำคัญของการฟีดแบ็ก ทั้งการให้และรับ ตามแนวคิดขององค์กรจัดการตนเอง (Self-Organization) หรือ องค์กรแห่งการเรียนรู้ พร้อมกับเน้นการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่ชวนให้ผู้เรียนได้เชื่อมต่อประสบการณ์ตัวเองกับการรับฟีดแบ็ก ผ่านกิจกรรม ให้พวกเขาได้ค่อยๆ เห็นว่าการฟีดแบ็กมีผลทางบวกอย่างไร
กิจกรรมที่เป็นไปได้ในการฝึกฝนร่วมกัน (Possible Activities)
- ฟีดแบ็กที่ทำให้เราเติบโต
- ผู้นำที่สร้างฉัน
เบรค 2 : Self-Feedback
ในกระบวนการให้และรับฟีดแบ็ก เพื่อการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะให้ความสำคัญกับการฟีดแบ็กและทบทวนตัวเองก่อน ให้ทุกคนได้ตระหนักถึงเป้าหมายที่สำคัญกับตัวเอง การมีผลกระทบต่อสิ่งๆต่างๆ และการได้เห็น สังเกตสิ่งต่างๆ ที่ได้ทำอย่างชัดเจน ให้เรารู้สึกว่าเราเป็นเจ้าของมันจริงๆ เบรกนี้นจะฝึกเข้มข้นกับ Self-Feedback Process
กิจกรรมที่เป็นไปได้ในการฝึกฝนร่วมกัน (Possible Activities)
- Self-Feedback by I-O-I-O Concept (Intention – Observation – Impact – Option)
- เด็ดดอกไม้สะเทือนดอกดาว Group System Relation
เบรค 3 : Feedback Practice
เรียนรู้จุดสำคัญในกระบวนการของการฟีดแบ็ก เช่น การรับฟังและ Reflection , Right Mindset ของการให้และรับฟีดแบ็ก และทักษะในการถามเพื่อขอฟีดแบ็กเพิ่มเติม จากผู้รับฟีดแบ็ก ซึ่งเป็น practice ที่สำคัญของ Feedback for Growth
กิจกรรมที่เป็นไปได้ในการฝึกฝนร่วมกัน (Possible Activities)
- Asking for Seek Opportunity to Growth
- Feedback Space
เบรค 4 : Feedback Culture
เรียนรู้กรณีศึกษาของการสร้าง Feedback Culture และการนำ Feedback มาปรับใช้ในพัฒนาตัวเอง / ทีม และองค์กร ที่เป็นกิจวัตรวิถี
กิจกรรมที่เป็นไปได้ในการฝึกฝนร่วมกัน (Possible Activities)
- Co-create a feedback culture
วันที่ 2 และ 3 : Facilitation Lab
ทดลองการปฏิบัติจริงในการนำกระบวนการเรียนรู้ โดย จะแบ่งเป็น 3 ช่วง
ช่วงที่ 1 – Facilitation Technique (2 ชม.) เรียนรู้ และติวอย่างเข้มข้น ถึงศิลปะการนำกระบวนการเรียนรู้ที่สร้างการมีส่วนร่วม และการออกแบบประสบการณ์
ช่วงที่ 2 – Facilitation Design ( 1 ชั่วโมง) ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ หรือ ประยุกต์สิ่งที่สนใจเข้ากับงานจริง โดยจะให้แต่ละองค์กรได้ลองนำกระบวนการเรียนรู้ องค์กรละ 1 เบรก
ช่วงที่ 3 – Facilitation Playwork (1.5 วัน) ให้แต่ละองค์กรนำกระบวนการจริง โดยมีให้เพื่อนสมาชิกและทีมพี่เลี้ยง เข้าร่วม ทีมละ 1.5 ชั่วโมง พร้อมรับคำแนะนำ และฟีดแบ็กเพิ่มเติม
หลังจบกิจกรรม 3 วัน เราจะมีการติดตามผลอีก 1 ครั้ง (ทุกคนสามารถสอบถาม ปรึกษา ทีมพี่เลี้ยงได้เป็นระยะ) ผ่านทาง Zoom Meeting โดยจะกลับมาเจอกันหลังเว้นไป 1 เดือน
ส่วนที่ 2 –โครงสร้างของหลักสูตรที่เราฝึกฝนเพื่อนำไปใช้ในการสอน หรือสร้างกระบวนการเรียนรู้ในองค์กร (Course Outline)
“ Feedback ที่ดีเป็นดั่งการมอบ....ของขวัญ....ที่ช่วยสร้างพลังบวก ในการก้าวเดินต่อ
และยังช่วยสานสัมพันธ์ ให้ความวางใจต่อกันแนบแน่นยิ่งขึ้น ”
หลักการ เหตุผล และความเชื่อเบื้องหลัง ของโปรแกรม (Principle and Reason)
การให้ฟีดแบ็ค (Giving Feedback) ถือเป็นทักษะและวิถีการทำงานร่วมกันที่สำคัญ ทั้งกับหัวหน้างาน (ผู้นำหน่วยงาน) และสมาชิกในทีมทุกคน ด้วยโลกที่มีการเปลเี่ยนแปลงและแข่งขันสูง การที่เราอยู่รอดและเติบโตไปด้วยกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการร่วมกันสังเกต ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งกับตัวเรา ทีม และสิ่งรอบตัว เพื่อให้เราได้ข้อมูลเพียงพอที่จะคิด และลงมือทำ ปรับตัวให้ทันหรือสอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ เราต้องช่วยให้สมาชิกในทีมได้ตระหนักรู้และมองเห็นตนเองชัดขึ้น ทั้งความรู้สึก ความต้องการ จุดแข็ง สิ่งที่ทำได้ดี และโอกาสพัฒนาปรับปรุงตน การให้ฟีดแบ็คที่ดีเปรียบได้กับกระจกที่ใสพอ ที่จะช่วยให้เห็นตนเองที่ชัด ยอมรับและเกิดแรงกระตุ้นในเชิงบวกที่จะพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริง การให้ฟีดแบ็คที่สร้างสรรค์กลับเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก ดังปัญหาที่องค์กรมักประสบในการสร้างวัฒนธรรมการฟีดแบ็ค มีดังนี้
- หัวหน้างานและสมาชิกในทีมไม่กล้าให้ Feedback อย่างตรงไปตรงมา เพราะกลัวเสียความสัมพันธ์
- ฟีดแบ็คแบบสื่อสารทางเดียว ไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับได้แสดงความคิดเห็น บอกสิ่งที่มองเห็นตัวเอ
- ไม่มีการสื่อสารให้ฟีดแบ็คแบบมีชีวิต หัวหน้าหรือสมาชิก Comment เป็นข้อความ แบบฟอร์มส่งมาเท่านั้น ไม่มีการพูดคุยกันจริง
- ขาดทักษะการฟีดแบ็ค (ทั้งการให้และรับ) มักจะพูดตามความเห็นของตน และใช้อารมณ์ หรืออำนาจบีบบังคับให้ยอมรับ
- ขาดความต่อเนื่อง ความถี่ในการทำ บ้างก็คุยกันครึ่งปีครั้ง หรือปีละครั้งเท่านั้น
- เป็นการทำเป็นพิธีแก้บน ทำให้ผ่านๆ เสร็จตามขั้นตอนตามระบบ ไม่สนใจผลลัพธ์ของการพูดคุย
- ยิ่งคุยยิ่งขัดแย้ง เป็นไปในทางลบ อีกฝ่ายไม่เปิดใจยอมรับ ทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ในทีม
การให้และรับฟีดแบ็ค (Feedback) เป็นศิลปะที่ผู้นำยุคใหม่และพนักงานในทีมต้องได้รับการฝึกฝน เป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดด รวมถึงการสร้างทีมงาน และวัฒนธรรมในการให้ Feedback ในองค์กร (Feedback Culture) ให้เป็นพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง การให้ Feedback ที่สร้างพลัง เป็นเสมือนการ “ให้ของขวัญ” (Positive Feedback) หรือ ให้พร ได้รับแล้วจะมีความหวัง หรือได้รับเชื้อเพลิงในการเดินทางต่อ ดังนั้นจึงต้องอาศัยการฝึกฝนที่เข้มข้น ไม่เช่นนั้นการให้ฟีดแบ็คจะกลายเป็นการ “ให้ร้าย” (Negative Feedback) ที่ทำให้ห่อเหี่ยว และขาดแรงใจใน
หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการบ่มเพาะความเข้าใจเชิงลึกในแก่นที่สำคัญของการให้และรับฟีดแบ็ค โดยจะฝึกฝนการให้และรับ Feedback อย่างลุ่มลึกและสร้างพลังบวกสู่การเปลี่ยนแปลง ด้วยเครื่องมือและหลักปฏิบัติที่ผสมผสานองค์ความรู้สำคัญ อาทิ Radical Candor , Positive Psychology Coaching , Non Violent Communication เข้าด้วยกัน ที่จะช่วยให้ผู้นำสามารถกลับไปให้ Feedback ในการนำทีมได้อย่างเกิดผล สร้างพลังบวก สร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจกับผู้รับ Feedback ได้ดีขึ้น
แกนสำคัญของ กระบวนการเรียนรู้ ที่ใช้ในโปรแกรมนี้
โปรแกรมหลักสูตร Feedback for Growth - The art of giving and receiving feedback for growth เราใช้แกนความรู้สำคัญ 3 ส่วน ในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ ได้แก่ 1) Right Mindset for Feedback มายด์เซ็ทสำคัญของการให้และรับฟีดแบ็ก 2) I-O-I-O Model (Intention-Observation-Impact-Option) รหัสสำคัญในทบทวนและฟีดแบ็กตัวเองและผู้อื่น 3) กระบวนการให้และรับฟีดแบ็ก ตามแนวทางของทีมจัดการตัวเอง (Feedback Process for Self-Organization) ซึ่งทั้งสามเรื่อง ถือเป็นหัวใจที่จะช่วยให้ผู้เรียนแต่ละคนตระหนักและที่ทักษะ ความเข้าใจที่จะทำงานกับฟีดแบ็กอย่างสร้างสรรค์
- ผู้เรียนเกิดความเข้าใจและเห็นความสำคัญของกระบวนการ Feedbacks โดยเห็นว่ากระบวนการนี้คือส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการพัฒนาทีมและขับเคลื่อนผลงาน
- ผู้เรียนเข้าใจองค์ประกอบต่างๆ ที่จะนำไปสู่การฟีดแบ็คอย่างสร้างสรรค์ ทั้งจิตวิทยาเพื่อความเข้าใจมนุษย์ ปัจจัยที่จะทำให้คนเปิดใจ ทักษะในการสังเกต ตลอดจนศิลปะในการพูดความจริงโดยไม่เสียความสัมพันธ์
- ผู้เรียนสามารถให้และรับฟีดแบ็คได้จริง โดยใช้ทักษะใหม่ที่ได้จากการเรียนรู้
- เห็นแนวทาง และสามารถออกแบบกิจกรรมที่จะส่งเสริมวัฒนธรรรมการฟีดแบ็ค (Feedbacks Culture) ให้เกิดขึ้นจริงในทีมหรือองค์กรได้
ประเด็นการเรียนรู้หลักของโปรแกรมนี้ (Key Learning Contents)
การให้ฟีดแบ็ก เป็นเรื่อง Sensitive สำหรับผู้ให้ และผู้รับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดของการฝึกฝน ในโปรแกรมนี้ เราจะเตรียมความพร้อมให้ทุกคนทั้งการปรับสภาวะและ Mindset ในการให้และรับ Feedback ก่อนที่ทุกคนจะได้ลองฝึกจริง ในการฟีดแบ็กตัวเอง และการให้ฟีดแบ็ก ระหว่างกัน ซึ่งเราได้นำโจทย์จริงให้เขาได้ลองฝึกฝนกันจริงๆ ร่วมกัน รวมถึงการต่อยอดไปใช้สร้างวัฒนธรรมในองค์กร
- ความสำคัญของการให้ Feedback กับการบริหารผลงานสู่ผลลัพธ์ชั้นเลิศ (Beyond Performance by Feedback)
- ทัศนคติที่ถูกต้องในการเป็นผู้ให้และผู้รับ Feedback (Right Mindset)
- เรียนรู้ความต่าง และศักยภาพเชิงลึกของทีมงาน ผ่านหลักการผู้นำสี่ทิศ
- Radical Candor หัวใจสำคัญของการให้ Feedback เพื่อการพัฒนา
- การประเมินความสัมพันธ์และระดับความไว้วางใจ ก่อนการให้ Feedback (Degree of Trust)
- ขั้นตอนสำคัญในการให้และรับ Feedback เพื่อการพัฒนา (Step of Giving Feedback)
- หลักสำคัญของการฟีดแบ็กด้วย I-Massage และ I-O-I-O (Intention - Observation - Impact - Option)
- การสะท้อนใคร่ครวญ ฟีดแบ็คตนเองด้วยกระบวนการ Self Reflection
- ศิลปะในการพูดถึงเหตุการณ์ สิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ผู้รับ Feedback เปิดใจ (Giving Observation and Evident)
- การเช็คความเข้าใจ และความสัมพันธ์หลังการให้ Feedback (Connection Request)
- การสร้างข้อตกลงร่วมในการติดตามผล หลังการให้ Feedback เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
- ศิลปะการให้ Feedback เชิงโค้ชชิ่ง เพื่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา (Coaching for Growth)
- เทคนิคการทำ Challenge Feedback ที่ยกระดับการพัฒนาความสามารถและผลงานอย่างก้าวกระโดด
- หลุมพรางของการให้ Feedback ที่ล้มเหลว
- การสร้างวัฒนธรรมการ Feedback ในองค์กร (Feedback Culture)
ทักษะที่ฝึกฝน (Skills Development)
- มายด์เซ็ทใหม่ของการพัฒนาตัวเอง และ การให้ การรับฟีดแบ็ก
- ทักษะการรับฟังอย่างเข้าใจ (Empathic Listening) และทักษะการทบทวนใคร่ครวญ (Reflection Skills)
- ทักษะการรับและให้ฟีดแบ็ก เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Feedback Skills)
- ความเข้าใจในกระบวนการของการให้และรับฟีดแบ็ก